Stanozolol หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Winstrol หรือ Stano เป็นสเตียรอยด์แอนาโบลิกที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1962 โดย Winthrop Laboratories ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Sterling Drug จุดมุ่งหมายของการพัฒนา Stanozolol คือการสร้างสเตียรอยด์ที่มีคุณสมบัติแอนาโบลิกสูงแต่มีผลข้างเคียงทางแอนโดรเจนต่ำ ในวงการกีฬาและการเพาะกาย Stanozolol เป็นที่นิยมเนื่องจากมีคุณสมบัติในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ความแข็งแรง และความทนทาน โดยไม่ทำให้เกิดการเก็บกักน้ำมาก ทำให้กล้ามเนื้อดูชัดเจนและคมชัด นักกีฬามักใช้ Stanozolol ในช่วงเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันเพาะกายและกีฬาอื่น ๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและความเร็ว
ลักษณะทางเคมีสตาโน่
- ชื่อทางเคมี: 17β-Hydroxy-17α-methyl-5α-androstano[3,2-c]pyrazole
- สูตรโมเลกุล: C21H32N2O
- น้ำหนักโมเลกุล: 328.5 g/mol
ข้อมูลสำคัญของ Stanozolol (Winstrol, Stano)
Half-life:
- Stanozolol (Winstrol, Stano) มีครึ่งชีวิตประมาณ 9 ชั่วโมงในรูปแบบเม็ด และประมาณ 24 ชั่วโมงในรูปแบบฉีด
Detection Time:
- Detection Time ของ Stanozolol สามารถตรวจพบในเลือดและปัสสาวะได้นานถึง 2 เดือนหลังการใช้งาน ขึ้นอยู่กับวิธีการทดสอบและปริมาณที่ใช้
Aromatize:
- Stanozolol (Winstrol, Stano) ไม่เกิดการ Aromatize หมายความว่าไม่ถูกเปลี่ยนเป็นเอสโตรเจนในร่างกาย ดังนั้นจึงไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับเอสโตรเจน เช่น การกักเก็บน้ำหรือ gynecomastia
กลไกการทำงานของ Stanozolol
1. การเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน (Protein Synthesis)
- การสังเคราะห์โปรตีน: Stanozolol ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโตและฟื้นฟูได้รวดเร็วขึ้น การเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนช่วยในการสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่และซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายจากการออกกำลังกาย
2. การเพิ่มการเก็บไนโตรเจน (Nitrogen Retention)
- การเก็บไนโตรเจน: Stanozolol ช่วยให้กล้ามเนื้อเก็บไนโตรเจนได้มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีน การเก็บไนโตรเจนที่เพิ่มขึ้นทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะ anabolic (การสร้างกล้ามเนื้อ) มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3. การกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง (Red Blood Cell Production)
- การผลิตเม็ดเลือดแดง: Stanozolol ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงในไขกระดูก เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทำให้ความทนทานและความแข็งแรงในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
4. การเพิ่มความแข็งแรง (Strength Gain)
- การเพิ่มความแข็งแรง: Stanozolol มีผลในการเพิ่มความแข็งแรง ทำให้นักกีฬาและผู้ฝึกฝนกีฬาสามารถยกน้ำหนักและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. การลดระดับ SHBG (Sex Hormone Binding Globulin)
- ลดระดับ SHBG: Stanozolol ช่วยลดระดับ SHBG ซึ่งเป็นโปรตีนที่จับกับฮอร์โมนเพศ ทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกายมีอิสระมากขึ้น และสามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
6. การไม่ Aromatize (Non-aromatizing)
- การไม่ Aromatize: Stanozolol ไม่ถูกเปลี่ยนเป็นเอสโตรเจนในร่างกาย ทำให้ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงจากเอสโตรเจน เช่น การกักเก็บน้ำหรือ gynecomastia
การใช้งาน Winstrol, Stano ในคนทั่วไปและนักเพาะกาย
การใช้งานในคนทั่วไป
- การรักษาโรค: ใช้ในการรักษาภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ, ภาวะผอมแห้ง, การเจ็บป่วยหรือการผ่าตัดที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ และการรักษาภาวะโลหิตจางบางชนิด
- การฟื้นฟูร่างกาย: ใช้ในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังจากการเจ็บป่วยหรือการผ่าตัด
การใช้งานในนักเพาะกาย
- เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ: นักเพาะกายมักใช้ Stanozolol เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อในระยะเวลาสั้น ๆ เนื่องจากมีการสังเคราะห์โปรตีนที่สูงและลดการสลายโปรตีน
- การเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน: ใช้ในช่วงเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันเพื่อเพิ่มความชัดเจนของกล้ามเนื้อและลดไขมันสะสม
- เพิ่มความแข็งแรง: ใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความอดทนในการฝึกฝน
ข้อควรระวัง Stanozolol
- การใช้งานในระยะยาว: ควรระมัดระวังการใช้งานในระยะยาวเนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อระบบตับและไต
- การใช้ในปริมาณสูง: ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในปริมาณที่สูงเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพ
- การตรวจสอบสุขภาพ: ควรมีการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะระบบตับและไต เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
- การใช้ในผู้หญิง: ควรระมัดระวังการใช้ในผู้หญิง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของลักษณะเพศชาย เช่น การเพิ่มของขนบนร่างกายและเสียงต่ำ
- การใช้อย่างถูกต้อง: ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้อย่างเคร่งครัด
สรุปสตาโน่
Stanozolol หรือ Winstrol เป็นแอนาโบลิกสเตียรอยด์ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง โดยมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับสเตียรอยด์ชนิดอื่นๆ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น