AC-262

AC-262 หรือที่รู้จักกันในชื่อ AC-262,356 เป็น Selective Androgen Receptor Modulator (SARM) ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Acadia Pharmaceuticals AC-262 ถูกวิจัยขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกที่มีผลข้างเคียงน้อยกว่าในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เช่น sarcopenia (การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับอายุ) แม้ว่า AC-262 จะยังไม่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการใช้ในทางการแพทย์ แต่มันก็ได้รับความสนใจในหมู่นักเพาะกายและผู้ที่สนใจในการเพิ่มประสิทธิภาพร่างกายเนื่องจากมีคุณสมบัติในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงโดยไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงเช่นเดียวกับสเตียรอยด์แอนโดรเจน

ลักษณะทางเคมีของ AC-262

  • ชื่อทางเคมี: 4-(cyclopropylmethyl)-N-(1-methyl-2-oxo-2H-pyridin-3-yl)-N-(2,2,2-trifluoroethyl)benzamide
  • สูตรโมเลกุล: C18H18F3N3O3
  • น้ำหนักโมเลกุล: 381.35 g/mol
  • โครงสร้างเคมี: AC-262 มีโครงสร้างที่ประกอบด้วยวงแหวนเบนซีนและไพริดีนที่เชื่อมต่อกันด้วยกลุ่ม trifluoroethyl และ cyclopropylmethyl ซึ่งช่วยให้สามารถจับกับตัวรับแอนโดรเจนได้อย่างจำเพาะเจาะจง

ข้อมูลสำคัญของ AC-262

  1. Half-life:
    • ข้อมูลเกี่ยวกับครึ่งชีวิตของ AC-262 ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดเนื่องจากเป็นสารที่ยังอยู่ในระยะการวิจัย แต่คาดว่าอาจมีครึ่งชีวิตอยู่ในช่วง 12-24 ชั่วโมง
  2. Detection Time:
    • ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาการตรวจพบของ AC-262 ยังไม่ชัดเจนเนื่องจากเป็นสารที่อยู่ในระยะการวิจัย แต่คาดว่าอาจสามารถตรวจพบได้ในระบบนานถึง 7-10 วันหลังจากการใช้ครั้งสุดท้าย

กลไกการทำงานของ AC-262

AC-262 ทำงานโดยการจับกับตัวรับ Androgen Receptor (AR) ในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและกระดูก ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างโปรตีนและการเพิ่มขึ้นของมวลกล้ามเนื้อ ขณะที่ลดผลกระทบต่อเนื้อเยื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากการใช้สเตียรอยด์แอนโดรเจน กลไกหลักของ AC-262 ได้แก่:

  1. การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ:
    • AC-262 ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง โดยเฉพาะในผู้ที่ฝึกฝนการออกกำลังกายอย่างหนัก
  2. การเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก:
    • AC-262 ยังสามารถช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและป้องกันการสูญเสียกระดูก ซึ่งมีประโยชน์ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน
  3. ผลกระทบต่ำต่อเนื้อเยื่ออื่นๆ:
    • AC-262 ออกแบบมาให้มีผลกระทบต่ำต่อเนื้อเยื่ออื่นๆ เช่น เนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับการผลิตฮอร์โมนเพศ ทำให้มันมีโอกาสที่จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าสเตียรอยด์แอนโดรเจน

การใช้งานในคนทั่วไปและนักเพาะกาย

การใช้งานในคนทั่วไป

  • การรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน: AC-262 ถูกพัฒนาเพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน โดยการกระตุ้นการทำงานของตัวรับแอนโดรเจนในกล้ามเนื้อและกระดูก
  • การรักษาภาวะกล้ามเนื้อลีบ: AC-262 อาจถูกใช้ในการรักษาภาวะกล้ามเนื้อลีบและโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เช่น sarcopenia

การใช้งานในนักเพาะกาย

  • การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง: นักเพาะกายใช้ AC-262 เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง โดยคาดหวังว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่คล้ายกับการใช้สเตียรอยด์แอนโดรเจนแต่มีผลข้างเคียงน้อยกว่า
  • การรักษามวลกล้ามเนื้อในช่วงการลดน้ำหนัก: AC-262 มักใช้ในช่วงที่ต้องการลดน้ำหนักหรือไขมันในร่างกาย โดยยังคงรักษามวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงไว้

ข้อควรระวัง

  1. ข้อมูลความปลอดภัยที่จำกัด:
    • เนื่องจาก AC-262 ยังอยู่ในระยะการวิจัย ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในระยะยาวยังมีจำกัด และยังไม่มีการศึกษาที่เพียงพอในมนุษย์เพื่อยืนยันถึงผลข้างเคียงและความเสี่ยงต่อสุขภาพ
  2. การใช้ในทางที่ผิด:
    • การใช้ AC-262 ในวงการฟิตเนสและนักเพาะกายถือเป็นการใช้ในทางที่ผิดและยังไม่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและขัดต่อกฎหมายในบางประเทศ
  3. ผลกระทบต่อระบบฮอร์โมน:
    • แม้ว่า AC-262 จะมีผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนน้อยกว่าสเตียรอยด์ แต่การใช้ในระยะยาวหรือในปริมาณสูงอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ Post Cycle Therapy (PCT) เพื่อฟื้นฟูระบบฮอร์โมนหลังจากหยุดใช้ยา
  4. การตรวจสารต้องห้ามในการแข่งขันกีฬา:
    • AC-262 ถูกจัดเป็นสารต้องห้ามในกีฬาอาชีพ และการตรวจพบสารนี้ในนักกีฬาจะส่งผลให้ถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน

สรุป

  • ความเป็นมา: AC-262,356 พัฒนาโดย Acadia Pharmaceuticals เพื่อใช้เป็นทางเลือกในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจาก FDA
  • ลักษณะทางเคมี: มีสูตรโมเลกุล C18H18F3N3O3 และเป็น Selective Androgen Receptor Modulator (SARM)
  • Half-life: คาดว่าอาจมีครึ่งชีวิตอยู่ในช่วง 12-24 ชั่วโมง
  • Detection Time: คาดว่าจะสามารถตรวจพบได้ในระบบนานถึง 7-10 วัน
  • กลไกการทำงาน: จับกับตัวรับแอนโดรเจนในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและกระดูกเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง
  • การใช้งานในคนทั่วไป: การรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน, การรักษาภาวะกล้ามเนื้อลีบ
  • การใช้งานในนักเพาะกาย: การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง, การรักษามวลกล้ามเนื้อในช่วงการลดน้ำหนัก
  • ข้อควรระวัง: ข้อมูลความปลอดภัยที่จำกัด, การใช้ในทางที่ผิด, ผลกระทบต่อระบบฮอร์โมน, การตรวจสารต้องห้ามในการแข่งขันกีฬา