Finasteride เป็นยาที่ถูกพัฒนาในช่วงปี 1980 โดยบริษัท Merck & Co. และได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปี 1992 สำหรับการรักษาภาวะต่อมลูกหมากโต (benign prostatic hyperplasia – BPH) ในขนาด 5 มิลลิกรัมภายใต้ชื่อทางการค้าว่า Proscar ต่อมาในปี 1997 Finasteride ขนาด 1 มิลลิกรัมได้รับการอนุมัติสำหรับการรักษาภาวะผมร่วงแบบศีรษะล้านในผู้ชาย (male pattern baldness) ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า Propecia
ลักษณะทางเคมีของ Finasteride
- ชื่อทางเคมี: Finasteride
- สูตรโมเลกุล: C23H36N2O2
- น้ำหนักโมเลกุล: 372.55 g/mol
- โครงสร้างเคมี: Finasteride เป็นอนุพันธ์ของ 4-aza steroid ซึ่งมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน แต่มีการปรับแต่งทางเคมีที่ทำให้สามารถยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha-reductase ได้
ข้อมูลสำคัญของ Finasteride (Proscar)
- Half-life:
- Finasteride มีครึ่งชีวิตในร่างกายประมาณ 4-6 ชั่วโมง
- Detection Time:
- Finasteride อาจถูกตรวจพบในระบบนานถึง 2 สัปดาห์หลังการใช้ แต่ปกติแล้วจะตรวจไม่พบในการทดสอบยาเนื่องจากไม่ใช่สารที่ใช้ในทางที่ผิด
กลไกการทำงานของ Finasteride
Finasteride ทำงานโดยการยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha-reductase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็น dihydrotestosterone (DHT) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของต่อมลูกหมากและการทำให้ผมร่วงในผู้ชาย กลไกหลักของ Finasteride คือ:
- การลดการผลิต DHT:
- Finasteride ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5-alpha-reductase ทำให้ระดับ DHT ในร่างกายลดลง ซึ่งจะช่วยลดขนาดของต่อมลูกหมากในผู้ป่วย BPH และลดการสูญเสียเส้นผมในผู้ชายที่มีภาวะผมร่วง
- ผลต่อการเจริญเติบโตของต่อมลูกหมาก:
- การลดระดับ DHT ในต่อมลูกหมากจะช่วยลดการขยายตัวของต่อมลูกหมากและบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับ BPH เช่น ปัสสาวะลำบากหรือต้องปัสสาวะบ่อย
- ผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม:
- Finasteride ช่วยลดระดับ DHT ในหนังศีรษะ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วงแบบศีรษะล้านในผู้ชาย
การใช้งานในคนทั่วไปและนักเพาะกาย
การใช้งานในคนทั่วไป
- การรักษาภาวะต่อมลูกหมากโต (BPH): Finasteride ใช้ในการลดขนาดของต่อมลูกหมากในผู้ชายที่มีภาวะ BPH และบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับภาวะนี้
- การรักษาภาวะผมร่วงแบบศีรษะล้านในผู้ชาย: Finasteride ขนาด 1 มิลลิกรัม ใช้ในการป้องกันและรักษาภาวะผมร่วงในผู้ชาย โดยการลดระดับ DHT ในหนังศีรษะ
การใช้งานในนักเพาะกาย
- การป้องกันผลข้างเคียงจากสเตียรอยด์: นักเพาะกายที่ใช้สเตียรอยด์ Anabolic อาจใช้ Finasteride เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับระดับ DHT สูง เช่น ภาวะผมร่วงและการขยายตัวของต่อมลูกหมาก
ข้อควรระวัง
- ผลข้างเคียงต่อสุขภาพทางเพศ:
- Finasteride อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทางเพศ เช่น ความต้องการทางเพศลดลง, สมรรถภาพทางเพศลดลง, หรือน้ำอสุจิลดลง ซึ่งอาจคงอยู่แม้หยุดการใช้ยาแล้ว
- ความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า:
- มีรายงานบางกรณีที่ Finasteride อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและความคิดฆ่าตัวตาย
- การตั้งครรภ์:
- Finasteride ไม่ควรใช้หรือสัมผัสโดยผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรืออาจตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาของอวัยวะเพศในทารกเพศชาย
- ผลกระทบระยะยาว:
- การใช้ Finasteride ในระยะยาวควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อติดตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพ
- การหยุดยา:
- หากหยุดใช้ Finasteride ระดับ DHT จะกลับมาเป็นปกติภายในไม่กี่สัปดาห์ และอาการที่รักษาอาจกลับมาได้
สรุป
- ความเป็นมา: Finasteride (Proscar) ได้รับการอนุมัติในปี 1992 สำหรับการรักษาภาวะต่อมลูกหมากโต และในปี 1997 สำหรับการรักษาภาวะผมร่วงแบบศีรษะล้านในผู้ชาย
- ลักษณะทางเคมี: มีสูตรโมเลกุล C23H36N2O2 และเป็นอนุพันธ์ของ 4-aza steroid
- Half-life: ประมาณ 4-6 ชั่วโมง
- Detection Time: สามารถตรวจพบได้ในระบบนานถึง 2 สัปดาห์
- กลไกการทำงาน: ยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha-reductase เพื่อลดระดับ DHT ในร่างกาย
- การใช้งานในคนทั่วไป: การรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตและผมร่วงแบบศีรษะล้านในผู้ชาย
- การใช้งานในนักเพาะกาย: ป้องกันผลข้างเคียงจากสเตียรอยด์ที่เกี่ยวข้องกับระดับ DHT สูง
- ข้อควรระวัง: ผลข้างเคียงต่อสุขภาพทางเพศ, ความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า, การใช้ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์, ผลกระทบระยะยาว