Liothyronine Sodium หรือ Cytomel, T3 (ไซโตเมล, ทีสาม)

Liothyronine Sodium หรือ Cytomel, T3 (ไซโตเมล, ทีสาม)

Liothyronine Sodium หรือที่รู้จักกันในชื่อการค้าว่า Cytomel หรือ T3 เป็นฮอร์โมนไทรอยด์ที่ใช้ในการรักษาภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism) โดยฮอร์โมน T3 มีความสำคัญในการควบคุมเมตาบอลิซึมในร่างกายและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบประสาทและกล้ามเนื้อในเด็ก

ลักษณะทางเคมีของ Liothyronine Sodium (Cytomel, T3)

  • ชื่อทางเคมี: L-3,3′,5-triiodothyronine sodium salt
  • สูตรโมเลกุล: C15H11I3NNaO4
  • น้ำหนักโมเลกุล: 672.96 g/mol
  • โครงสร้างเคมี: Liothyronine Sodium เป็นเกลือโซเดียมของฮอร์โมนไทรอยด์ T3 ซึ่งมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยไอโอดีนสามอะตอม

ข้อมูลสำคัญของ Liothyronine Sodium (T3)

  1. Half-life:
    • Liothyronine Sodium (T3) มีครึ่งชีวิตประมาณ 2-2.5 วันในร่างกายมนุษย์ ซึ่งหมายความว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณ T3 จะถูกกำจัดออกจากร่างกายภายในเวลานี้
  2. Detection Time:
    • ของ T3 สามารถตรวจพบในเลือดและปัสสาวะได้ในระยะเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังการใช้งาน ขึ้นอยู่กับวิธีการทดสอบและปริมาณที่ใช้

กลไกการทำงานของ Liothyronine Sodium (Cytomel, T3)

  1. การเพิ่มเมตาบอลิซึม (Metabolism Enhancement)
    • Liothyronine Sodium ช่วยกระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิซึมในร่างกาย เพิ่มการใช้พลังงานและการเผาผลาญแคลอรี่ ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันและน้ำตาลได้มากขึ้น
  2. การเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน (Protein Synthesis)
    • T3 ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโตและฟื้นฟูได้รวดเร็วขึ้น
  3. การกระตุ้นระบบประสาท (Nervous System Stimulation)
    • T3 มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบประสาทและการทำงานของสมอง ทำให้มีการตอบสนองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  4. การเพิ่มการเผาผลาญไขมัน (Fat Metabolism)
    • T3 ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ทำให้ร่างกายลดการสะสมของไขมันและเพิ่มการใช้ไขมันเป็นพลังงาน

การใช้งานในคนทั่วไปและนักเพาะกาย

การใช้งานในคนทั่วไป

  • การรักษาภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism): ใช้ในการรักษาภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำเพื่อปรับระดับฮอร์โมนไทรอยด์ให้เป็นปกติ
  • การรักษาภาวะโกอิตเตอร์ (Goiter): ใช้ในการรักษาและป้องกันการเกิดภาวะโกอิตเตอร์หรือการบวมของต่อมไทรอยด์

การใช้งานในนักเพาะกาย

  • การลดไขมัน (Cutting): นักเพาะกายใช้ T3 ในช่วงการลดไขมัน (cutting phase) เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันและเพิ่มเมตาบอลิซึม
  • การเพิ่มพลังงาน (Energy Enhancement): T3 ช่วยเพิ่มพลังงานและความทนทานในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน

ข้อควรระวัง

  1. การใช้ในปริมาณสูง (High Dosage)
    • การใช้ T3 ในปริมาณสูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น หัวใจเต้นเร็ว, ความดันโลหิตสูง, และภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (Hyperthyroidism)
  2. ผลข้างเคียงทางหัวใจ (Cardiovascular Side Effects)
    • T3 อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงทางหัวใจ เช่น หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะและความดันโลหิตสูง
  3. การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ (Regular Health Monitoring)
    • ควรมีการตรวจสุขภาพและระดับฮอร์โมนไทรอยด์อย่างสม่ำเสมอเมื่อใช้ T3 เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
  4. การใช้ในผู้หญิงตั้งครรภ์ (Pregnancy)
    • ไม่แนะนำให้ใช้ T3 ในผู้หญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่ให้นมบุตร เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือทารกแรกเกิด
  5. การใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ (Medical Supervision)
    • ควรใช้ T3 ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้อย่างเคร่งครัด

สรุป

  • ความเป็นมา: พัฒนาขึ้นเพื่อใช้รักษาภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำและภาวะโกอิตเตอร์
  • ลักษณะทางเคมี: L-3,3′,5-triiodothyronine sodium salt, สูตรโมเลกุล C15H11I3NNaO4, น้ำหนักโมเลกุล 672.96 g/mol
  • กลไกการทำงาน: การเพิ่มเมตาบอลิซึม, การเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน, การกระตุ้นระบบประสาท, การเพิ่มการเผาผลาญไขมัน
  • การใช้งานในคนทั่วไป: การรักษาภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ, การรักษาภาวะโกอิตเตอร์
  • การใช้งานในนักเพาะกาย: การลดไขมัน, การเพิ่มพลังงาน
  • ข้อควรระวัง: การใช้ในปริมาณสูง, ผลข้างเคียงทางหัวใจ, การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ, การใช้ในผู้หญิงตั้งครรภ์, การใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ