Insulin NPH หรือ Humulin N, Novolin N

Insulin NPH หรือ Humulin N, Novolin N

Insulin NPH (Neutral Protamine Hagedorn) เป็นอินซูลินชนิดหนึ่งที่ออกฤทธิ์ปานกลาง (intermediate-acting insulin) ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1946 โดย Hans Christian Hagedorn และ B. Norman Jensen โดยการเพิ่มโปรตีนโปรตามีนเพื่อทำให้การดูดซึมของอินซูลินช้าลง ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยาวนานขึ้น มีชื่อทางการค้าที่รู้จักกันทั่วไปคือ Humulin N และ Novolin N

ลักษณะทางเคมีของ Insulin NPH

  • ชื่อทางเคมี: Insulin Human Isophane
  • สูตรโมเลกุล: C257H383N65O77S6
  • น้ำหนักโมเลกุล: ประมาณ 5808 g/mol
  • โครงสร้างเคมี: Insulin NPH เป็นโปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 51 ตัว จัดเรียงเป็นสองสายโพลีเปปไทด์ (สาย A และสาย B) เชื่อมต่อกันด้วยพันธะไดซัลไฟด์ เช่นเดียวกับ Insulin Regular แต่มีการเพิ่มโปรตีนโปรตามีนเพื่อทำให้การดูดซึมช้าลง

ข้อมูลสำคัญของ Insulin NPH (Humulin N, Novolin N)

  1. Half-life:
    • Insulin NPH มีครึ่งชีวิตประมาณ 4-12 ชั่วโมงในระบบไหลเวียนโลหิต
  2. Detection Time:
    • Detection Time ของ Insulin NPH สามารถตรวจพบได้ในเลือดภายใน 12-18 ชั่วโมงหลังการฉีด

กลไกการทำงานของ Insulin NPH

  1. การเพิ่มการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่เซลล์:
    • Insulin NPH ช่วยเพิ่มการดูดซึมกลูโคสจากเลือดเข้าสู่เซลล์ โดยเฉพาะเซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์ไขมัน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
  2. การยับยั้งการผลิตกลูโคสจากตับ:
    • Insulin NPH ช่วยยับยั้งการผลิตกลูโคสจากตับ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำตาลในเลือดที่สำคัญในช่วงระหว่างมื้ออาหาร
  3. การส่งเสริมการเก็บกลูโคสในรูปแบบของไกลโคเจน:
    • Insulin NPH ส่งเสริมการเก็บกลูโคสในรูปแบบของไกลโคเจนในตับและกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายสามารถเก็บพลังงานไว้ใช้ในภายหลัง

การใช้งานในคนทั่วไปและนักเพาะกาย

การใช้งานในคนทั่วไป

  • การรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2: Insulin NPH ใช้ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 โดยมักใช้ร่วมกับ Insulin ที่ออกฤทธิ์เร็วหรือสั้นเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในช่วงมื้ออาหาร
  • การป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง: Insulin NPH ช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในช่วงระหว่างมื้ออาหารและตอนกลางคืน

การใช้งานในนักเพาะกาย

  • การเพิ่มการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ: นักเพาะกายอาจใช้ Insulin NPH หลังการฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มการดูดซึมกลูโคสและสารอาหารเข้าสู่กล้ามเนื้อ ทำให้การฟื้นฟูกล้ามเนื้อรวดเร็วขึ้น
  • การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ: การใช้ Insulin NPH ร่วมกับการบริโภคโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตช่วยเพิ่มการสร้างกล้ามเนื้อและลดการสลายกล้ามเนื้อ

ข้อควรระวัง

  1. ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia):
    • Insulin NPH สามารถทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้หากใช้ในปริมาณมากเกินไป หรือหากไม่ได้บริโภคอาหารเพียงพอหลังการฉีด
  2. การใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น:
    • การใช้ Insulin NPH ร่วมกับยาชนิดอื่นอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้
  3. การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ:
    • ควรมีการตรวจสุขภาพและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบการตอบสนองต่อยาและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
  4. การจัดเก็บและการใช้ยา:
    • ควรเก็บ Insulin NPH ในที่เย็นและแห้ง หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ร้อนหรือโดนแสงแดดโดยตรง และควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการฉีดยาอย่างเคร่งครัด

สรุป

  • ความเป็นมา: Insulin NPH เป็นอินซูลินที่ออกฤทธิ์ปานกลาง พัฒนาโดย Hans Christian Hagedorn และ B. Norman Jensen ในปี 1946 เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยาวนานขึ้น
  • ลักษณะทางเคมี: โปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 51 ตัว จัดเรียงเป็นสองสายโพลีเปปไทด์, สูตรโมเลกุล C257H383N65O77S6, น้ำหนักโมเลกุล 5808 g/mol
  • Half-life: ประมาณ 4-12 ชั่วโมง
  • Detection Time: ประมาณ 12-18 ชั่วโมง
  • กลไกการทำงาน: เพิ่มการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่เซลล์, ยับยั้งการผลิตกลูโคสจากตับ, ส่งเสริมการเก็บกลูโคสในรูปแบบของไกลโคเจน
  • การใช้งานในคนทั่วไป: การรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2, การป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
  • การใช้งานในนักเพาะกาย: การเพิ่มการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ, การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
  • ข้อควรระวัง: ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ, การใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น, การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ, การจัดเก็บและการใช้ยาอย่างเหมาะสม