Insulin Glargine หรือ Lantus, Toujeo, Basaglar

Insulin Glargine หรือ Lantus, Toujeo, Basaglar

Insulin Glargine เป็นอินซูลินชนิดหนึ่งที่ออกฤทธิ์นาน (long-acting insulin) ถูกพัฒนาโดย Sanofi-Aventis และได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปี 2000 ชื่อทางการค้าของ Insulin Glargine ได้แก่ Lantus, Toujeo และ Basaglar โดยแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างเล็กน้อยในเรื่องของความเข้มข้นและรูปแบบการใช้

ลักษณะทางเคมีของ Insulin Glargine

  • ชื่อทางเคมี: Insulin Glargine
  • สูตรโมเลกุล: C267H404N72O78S6
  • น้ำหนักโมเลกุล: ประมาณ 6063 g/mol
  • โครงสร้างเคมี: Insulin Glargine เป็นโปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 53 ตัว จัดเรียงเป็นสองสายโพลีเปปไทด์ (สาย A และสาย B) เชื่อมต่อกันด้วยพันธะไดซัลไฟด์ และมีการเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโนในตำแหน่งที่ 21 ของสาย A จาก Asparagine เป็น Glycine และเพิ่ม Arginine สองตัวที่ปลาย C ของสาย B

ข้อมูลสำคัญของ Insulin Glargine (Lantus, Toujeo, Basaglar)

  1. Half-life:
    • Insulin Glargine มีครึ่งชีวิตประมาณ 12-19 ชั่วโมงในระบบไหลเวียนโลหิต
  2. Detection Time:
    • Detection Time ของ Insulin Glargine ขึ้นอยู่กับการทดสอบและการใช้งาน แต่ส่วนใหญ่จะถูกกำจัดออกจากร่างกายภายใน 24 ชั่วโมง

กลไกการทำงานของ Insulin Glargine

  1. การเพิ่มการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่เซลล์:
    • Insulin Glargine ช่วยเพิ่มการดูดซึมกลูโคสจากเลือดเข้าสู่เซลล์ โดยเฉพาะเซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์ไขมัน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
  2. การยับยั้งการผลิตกลูโคสจากตับ:
    • Insulin Glargine ช่วยยับยั้งการผลิตกลูโคสจากตับ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำตาลในเลือดที่สำคัญในช่วงระหว่างมื้ออาหาร
  3. การส่งเสริมการเก็บกลูโคสในรูปแบบของไกลโคเจน:
    • Insulin Glargine ส่งเสริมการเก็บกลูโคสในรูปแบบของไกลโคเจนในตับและกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายสามารถเก็บพลังงานไว้ใช้ในภายหลัง

การใช้งานในคนทั่วไปและนักเพาะกาย

การใช้งานในคนทั่วไป

  • การรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2: Insulin Glargine ใช้ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 โดยมักฉีดวันละครั้งเพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ตลอดทั้งวัน
  • การป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง: Insulin Glargine ช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในช่วงระหว่างมื้ออาหารและตอนกลางคืน

การใช้งานในนักเพาะกาย

  • การเพิ่มการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ: นักเพาะกายอาจใช้ Insulin Glargine เพื่อเพิ่มการดูดซึมกลูโคสและสารอาหารเข้าสู่กล้ามเนื้อ ทำให้การฟื้นฟูกล้ามเนื้อรวดเร็วขึ้น
  • การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ: การใช้ Insulin Glargine ร่วมกับการบริโภคโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตช่วยเพิ่มการสร้างกล้ามเนื้อและลดการสลายกล้ามเนื้อ

ข้อควรระวัง

  1. ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia):
    • Insulin Glargine สามารถทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้หากใช้ในปริมาณมากเกินไป หรือหากไม่ได้บริโภคอาหารเพียงพอหลังการฉีด
  2. การใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น:
    • การใช้ Insulin Glargine ร่วมกับยาชนิดอื่นอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้
  3. การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ:
    • ควรมีการตรวจสุขภาพและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบการตอบสนองต่อยาและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
  4. การจัดเก็บและการใช้ยา:
    • ควรเก็บ Insulin Glargine ในที่เย็นและแห้ง หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ร้อนหรือโดนแสงแดดโดยตรง และควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการฉีดยาอย่างเคร่งครัด

สรุป

  • ความเป็นมา: Insulin Glargine เป็นอินซูลินที่ออกฤทธิ์นาน พัฒนาโดย Sanofi-Aventis และได้รับการอนุมัติจาก FDA ในปี 2000 เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • ลักษณะทางเคมี: โปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 53 ตัว จัดเรียงเป็นสองสายโพลีเปปไทด์, สูตรโมเลกุล C267H404N72O78S6, น้ำหนักโมเลกุล 6063 g/mol
  • Half-life: ประมาณ 12-19 ชั่วโมง
  • Detection Time: ประมาณ 24 ชั่วโมง
  • กลไกการทำงาน: เพิ่มการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่เซลล์, ยับยั้งการผลิตกลูโคสจากตับ, ส่งเสริมการเก็บกลูโคสในรูปแบบของไกลโคเจน
  • การใช้งานในคนทั่วไป: การรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2, การป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
  • การใช้งานในนักเพาะกาย: การเพิ่มการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ, การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
  • ข้อควรระวัง: ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ, การใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น, การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ, การจัดเก็บและการใช้ยาอย่างเหมาะสม