Furosemide หรือ Lasix

Furosemide หรือที่รู้จักในชื่อทางการค้าว่า Lasix เป็นยาขับปัสสาวะในกลุ่ม Loop diuretic ที่ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 และได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปี 1966 Furosemide ถูกใช้ในการรักษาภาวะบวมน้ำที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ โรคตับ และโรคไต รวมถึงการรักษาความดันโลหิตสูง

ลักษณะทางเคมีของ Furosemide

  • ชื่อทางเคมี: 4-Chloro-N-furfuryl-5-sulfamoylanthranilic acid
  • สูตรโมเลกุล: C12H11ClN2O5S
  • น้ำหนักโมเลกุล: 330.74 g/mol
  • โครงสร้างเคมี: Furosemide มีโครงสร้างทางเคมีที่ประกอบด้วยวงแหวน furanyl ซึ่งเชื่อมต่อกับกลุ่ม sulfonamide และวงแหวน benzene ที่มีคลอรีนเป็นองค์ประกอบ

ข้อมูลสำคัญของ Furosemide (Lasix)

  1. Half-life:
    • Furosemide มีครึ่งชีวิตในร่างกายประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตปกติ
  2. Detection Time:
    • Furosemide สามารถตรวจพบในปัสสาวะได้นานถึง 24-36 ชั่วโมงหลังจากการใช้ยา

กลไกการทำงานของ Furosemide

Furosemide ทำงานโดยการยับยั้งการดูดกลับของโซเดียมและคลอไรด์ในไตบริเวณ Henle’s loop (loop of Henle) ซึ่งส่งผลให้เกิดการขับน้ำออกจากร่างกายในปริมาณมาก กลไกการทำงานที่สำคัญของ Furosemide ได้แก่:

  1. การขับปัสสาวะที่แรง:
    • Furosemide เพิ่มการขับโซเดียม คลอไรด์ และน้ำออกจากร่างกาย ทำให้ปริมาณเลือดที่หมุนเวียนในร่างกายลดลง ซึ่งส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงและบรรเทาอาการบวมน้ำ
  2. การลดความดันโลหิต:
    • การลดปริมาณเลือดที่หมุนเวียนในร่างกายช่วยลดความดันโลหิต โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
  3. การรักษาภาวะบวมน้ำ:
    • Furosemide ใช้ในการรักษาภาวะบวมน้ำที่เกิดจากภาวะหัวใจวายเรื้อรัง โรคตับแข็ง และโรคไต โดยการขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย

การใช้งานในคนทั่วไปและนักเพาะกาย

การใช้งานในคนทั่วไป

  • การรักษาภาวะบวมน้ำ: Furosemide ถูกใช้ในการรักษาภาวะบวมน้ำที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจวาย โรคตับแข็ง และโรคไต รวมถึงภาวะบวมน้ำที่เกิดจากการใช้ยาบางชนิด
  • การรักษาความดันโลหิตสูง: Furosemide ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยาขับปัสสาวะอื่นๆ
  • การรักษาภาวะน้ำคั่งในปอด: ใช้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อบรรเทาอาการหายใจลำบากเนื่องจากภาวะน้ำคั่งในปอด (pulmonary edema)

การใช้งานในนักเพาะกาย

  • การลดน้ำหนักฉับพลัน: นักเพาะกายบางคนอาจใช้ Furosemide เพื่อขับน้ำออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว เพื่อลดน้ำหนักก่อนการแข่งหรือเพื่อให้ร่างกายดูแห้งและคมชัดขึ้น
  • การป้องกันการตรวจสารต้องห้าม: ในบางกรณี Furosemide อาจถูกใช้เพื่อขับสารต้องห้ามออกจากร่างกายก่อนการตรวจสอบสารต้องห้ามในการแข่งขันกีฬา

ข้อควรระวัง

  1. ความเสี่ยงต่อการขาดอิเล็กโทรไลต์:
    • การใช้ Furosemide อาจทำให้เกิดภาวะขาดอิเล็กโทรไลต์ เช่น โซเดียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออาการทางระบบประสาทอื่นๆ
  2. ภาวะขาดน้ำ:
    • การใช้ Furosemide อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงหากไม่ได้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันได้
  3. ความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว:
    • การใช้ Furosemide ในปริมาณมากหรือนานเกินไปอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว
  4. ผลกระทบต่อระบบประสาท:
    • การใช้ Furosemide ในขนาดสูงอาจทำให้เกิดภาวะหูอื้อหรือสูญเสียการได้ยินชั่วคราว
  5. การใช้ในระยะยาว:
    • การใช้ Furosemide ในระยะยาวควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น ภาวะไตวายหรือความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์

สรุป

  • ความเป็นมา: Furosemide (Lasix) ได้รับการอนุมัติในปี 1966 สำหรับการรักษาภาวะบวมน้ำและความดันโลหิตสูง
  • ลักษณะทางเคมี: มีสูตรโมเลกุล C12H11ClN2O5S และเป็นยาขับปัสสาวะในกลุ่ม Loop diuretic
  • Half-life: ประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง
  • Detection Time: สามารถตรวจพบได้ในปัสสาวะนานถึง 24-36 ชั่วโมง
  • กลไกการทำงาน: ยับยั้งการดูดกลับของโซเดียมและคลอไรด์ในไต ทำให้เกิดการขับน้ำออกจากร่างกาย
  • การใช้งานในคนทั่วไป: การรักษาภาวะบวมน้ำ, ความดันโลหิตสูง และภาวะน้ำคั่งในปอด
  • การใช้งานในนักเพาะกาย: ลดน้ำหนักฉับพลันและการป้องกันการตรวจสารต้องห้าม
  • ข้อควรระวัง: ความเสี่ยงต่อการขาดอิเล็กโทรไลต์, ภาวะขาดน้ำ, ความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว, ผลกระทบต่อระบบประสาท